Translate

วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

สุขภาพ





เคล็ดลับ สุขภาพดี ด้วย 18 วิธี ง่ายๆ
สุขภาพดีอาจจะหาซื้อไม่ได้แต่เป็นเจ้าของได้แน่นอน ถ้าสาวๆ ทำตามเคล็ดลับเหล่านี้

   1. แอปเปิ้ล แตงโม กล้วย กีวีต้องระวังผลไม้ทั้ง 3 ชนิดนี้มีประโยชน์มาก แต่ถ้าคุณกำลังทานยาปฏิชีวนะอยู่ ผลไม้พวกนี้จะกลายเป็นโทษทันทีเพราะมันบูดในลำไส้ได้ง่าย อาจจะทำให้เกิดอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหารได้

   2. ผลไม้กับมื้ออาหารก่อนทานอาหารควรจะเรยีกน้ำย่อยด้วยสับปะรดและมะละกอสัก 2-3 ชิ้น ผลไม้สองชนิดนี้มีเอนไซม์ที่จะช่วยให้กระเพาะย่อยอาหารมื้อหลักที่กำลังจะตามลงมาได้ง่ายขึ้น และหลังจากจบมื้ออร่อยแล้วควรตบท้ายด้วยแอปเปิ้ลสัก 1 ชิ้นเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณน้ำลายซึ่งจะทำให้จำนวนแบคทีเรียในช่องปากลดลง และช่วยให้เหงือกแข็งแรงด้วย

   3. อย่าปล่อยให้หิว
ควรจะทานอาหารให้ตรงเวลาทุกวันแม้จะยังไม่รู้สึกหิวก็ตาม เพราะเวลาที่เราหิวร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนควมเครียดออกมา ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เป็นประจำก็จะทำให้คุณกลายเป็นสาวเครียด และนำไปสู่อาการความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือเบาหวาน

   4. เนื้อสัตว์กับผลไม้ไม่เข้ากัน
ถ้าทานน้อยๆ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามื้อไหนคุณทานเนื้อเป็นจำนวนมากแล้วควรจะงดผลไม้ไป เพราะกว่าเนื้อจะย่อยหมดต้องใช้เวลานาน ส่าวนผลไม้ซึ่งย่อยเร็วจะถูกกักอยู่ในกระเพาะ จึงทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารได้

   5. นาฬิกาชีวภาพหลักการสุขภาพดีบอกไว้ว่าเราควรจะเข้านอนในเวลาเดียวกันทุกๆ วัน แต่ส่วนใหญ่พอถึงคืนวันศุกร์กับวันเสาร์เรามักจะนอนดึกเพราะถือว่าเป็นวันหยุด การทำอย่างนี้จะทำให้ความเคยชินหรือที่เรียกว่าชีวภาพของร่างกายรวรเร จึงไม่ต้องแปลกใจเลยที่วันจันทร์เราจะง่วงนอนกว่าปกติ

   6. ความเครียดทำลายผิว
ถ้าอยากผิวสวย แก่ช้า ดูอ่อนกว่าวัย สิ่งแรกที่ต้องปรับคือความคิดของตัวเราเอง พยายามคิดในทางบวก มองโลกในแง่ดี หลีกเลี่ยงความคิดที่ทำให้ตึงเครียด เพื่อไม่ให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกทำลายตัวเราเอง

   7. หลีกเลี่ยงภาชนะพลาสติก
เพราะความร้อนรวมทั้งรสชาติเผ็ดเปรี้ยว เค็มจากอาหารสามารถเข้าไปกัดเซาะสารสังเคราะห์ในพลาสติกให้ละลายออกปะปนกับอาหารได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะการใช้ภาชนะพลาสติกใส่อาหารเข้าอุ่นในเตาไมโครเวฟยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง เพราะเป็นการเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมเป็นอย่างมาก

   8. อย่าประมาทอาการไอเรื้อรังหลังจากหายหวัดแล้วอาการไออาจจะยังไม่หายไป แต่สาวหลายคนมักจะไม่สนใจเพราะคิดว่าอาการไอเป็นเรื่องชิลๆ แต่ที่จริงอาการไอเรื้อรังร้ายแรงกว่าที่คุณคิด เพราะมันอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ยาปฏิชีวนะ ที่หมอให้มารักษาอาการหวัดไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ วิธีหยุดอาการไอที่ได้ผลที่สุดคือการดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อลดเสมหะในทางเดินหายใจ และนอนหลับให้เพียงพอเพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้เต็มที่

   9. เท้าและข้อเท้าบวม
ถ้ามีอาการแบบนี้อย่าปล่อยไว้ เพราะฝ่าเท้าเป็นศูนย์รวมของเส้นประสาททั่วร่างกาย ถ้าบริเวณเท้ามีปัญหาก็จะส่งผลถึงร่างกายทุกส่วน วิธีแก้ไขคือให้นั่งยองๆ ทุกวันๆ ละ 15 นาทีจากนั้นก็ขยับข้อเท้าไปข้างหน้าและข้างหลังเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น หลังจากนั้นใช้แปรงขนนุ่มๆ แปรงผิวหนังเบาๆ โดยเริ่มจากฝ่าเท้าแล้วค่อยๆ ปัดไล่ขึ้นมาที่ข้อเท้า น่อง ต้นขา ท้อง แขนไปจนสุดที่มือทั้งสองข้าง (ยกเว้นผู้ที่เป็นเบาหวานเพราะเสี่ยงจะเกิดบาดแผล) ตบท้ายด้วยการอาบน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็น จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น

   10. งดเครื่องดื่มคาเฟอีน
เครื่องดื่มพวกนี้ไม่ว่าจะเป็นชาหรือกาแฟ ปกติก็ไม่ควรดื่มอยู่แล้ว แต่ถ้าบังเอิญคุณเป็นโรคปวดหลัง เครื่องดื่มพวกนี้จะเป็นศัตรูของคุณไปทันที เพราะคาเฟอีนจะไปลดการหลั่งสารเอนโดรฟินซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดอาการปวดตามอวัยวะต่างๆ อาการปวดของคุณก็จะไม่หายหรืออาจจะเป็นมากขึ้นด้วย

   11. ดื่มน้ำเร็ว...อันตราย
ใครๆ ก็บอกว่าควรจะดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว แต่ต้องค่อยๆ ดื่มไปตลอดวัน ไม่ใช่ทั้งวันไม่ดื่มเลย แล้วมารวบยอดเอาในครั้งเดียว เพราะการดื่มน้ำปริมาณมากๆ ในครั้งเดียวอาจทำให้เกิดอาการน้ำเป็นพิษเนื่องจากเลือดเจือจาง และอาจทำให้เป็นตะคริว กล้ามเนื้อเกร็งตามมา ยิ่งถ้าอาการเกร็งไปเกิดที่สมอง หัวใจ หรือปอด ก็อาจจะทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้

   12. แดดอ่อนตอนเช้า
แสงแดดยามเช้าจัดว่าเป็นยาตามธรรมชาติที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อ นอกจากทำให้กระดูกแข็งแรงแล้วยังทำให้อารมณ์ดี เพราะแดดอ่อนๆ มีวิตามินที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข ออกมาต่อต้านอาการซึมเศร้าในตัวเรา คนที่เดินเล่นรับแดดอ่อนจึงมีหน้าตาเบิกบานกว่าคนที่มัวแต่หลบแดดอยู่ในบ้านมาก

   13. เบาหวานอย่าทานไข่
ถ้าสมาชิกในครอบครัวคุณคนไหนเป็นเบาหวาน ควรให้เขางดไข่ไปเลย เพราะมีรายงานทางการแพทย์ว่าถ้าคนที่เป็นเบาหวานทานไข่อาทิตย์ละ 1 ฟอง จะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจมากขึ้น

   14. อยากผอมต้องน้ำเย็นการดื่มน้ำเย็น 50 ออนซ์ จะช่วยเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้นวันละ 50 แคลอรี ช่วยให้น้ำหนักลดลงปีละ 2.5 กิโลกรัม เพราะเมื่อเราดื่มน้ำเย็นร่างกายต้องใช้พลังงานในการทำให้น้ำนั้นเปลี่ยนอุณหภูมิเป็นอุณหภูมิปกติก่อน แล้วจึงนำไปใช้ได้ จึงเป็นการใช้พลังงานมากกว่าเดิม

   15. สุขภาพดีทันทีที่ตื่น
ถ้าอยากดูแลสุขภาพพร้อมกับการเริ่มต้นวันใหม่ ทันทีที่ตื่นนอนสาวๆ ควรผสมน้ำส้มสายชู (ที่หมักจากผลแอปเปิ้ล) กับน้ำผึ้งในสัดส่วนเท่ากัน ใส่น้ำอุ่นนิดหน่อย คนให้เข้ากันแล้วนำมาดื่ม จะช่วยให้การดูดซึมของระบบลำไส้และการเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ดีตลอดวัน

   16. ผู้ชายอย่าพลาดมะเขือเทศ
สำหรับหนุ่มซ่าที่กำลังเริ่มมีอาการเตะปี๊ปไม่ดังหรือกลัวว่าจะเป็นหมัน มะเขือเทศคือผลไม้ที่คุณจะพลาดไม่ได้ เพราะมะเขือเทศสุกมีสารโคปีนสูงมาก ช่วยให้ต่อมลูกหมากทำงานได้ดี ประสิทธิ์ภาพและสมรรถภาพต่างๆ จึงทำงานได้เป็นปกติ ถ้าผู้ชายทานมะเขือเทศอย่างน้อยอาทิตย์ละ 10 ผลหรือมากกว่านั้น ความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ก็จะน้อยลง 45 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญควรจะทานแบบสุกๆ เช่น ทานเป็นน้ำพริกอ่อง สปาเก็ตตี้ เพราะเวลามะเขือเทศถูกความร้อนมันจะปล่อยสารไลโคปีนออกมามากขึ้น

   17. ป้องกันกรดในกระเพาะอาหาร
สำหรับที่ท้องอืดบ่อย ควรลดปริมาณการดื่มน้ำผลไม้เข้มข้นอย่างเช่น มะนาว ส้ม ส้มโอ เกรฟฟรุต หรือน้ำมะเขือเทศสดนั่น เพราะน้ำพวกนี้มีกรดมากทำให้ท้องอืด หรือถ้าเสพติดไปแล้วอดไม่ได้จริงๆ ก็อาจจะทำให้เจือจางลงด้วยการผสมน้ำมากๆ

   18. หลบอัลไซเมอร์ด้วยเกม
ถ้าไม่อยากเป็นอัลไซเมอร์หรือเป็นโรคขี้หลงขี้ลืม สาวๆ ควรจะฝึกสมองด้วยการเล่นเกมที่ต้องใช้สมาธิ เช่น ปริศนาอักษรไขว้ เกมในคอมพิวเตอร์ หรืออาจจะทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิอย่างเรียนดนตรี เล่นหมากรุก เป็นต้น เพราะเกมเหล่านี้จะช่วยให้ระบบประสาททำงานเชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ
http://blog.eduzones.com/entertain/11089





วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

แมวไทย

แมวไทย (Siamese cat)

คือแมวที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศไทย คุณสมบัติที่ทำให้แมวไทยเหนือกว่าแมวชนิดอื่น คือ อุปนิสัย แมวไทยมีความฉลาด มีความเป็นตัวของตัวเอง รู้จักคิด รู้จักประจบ รักบ้าน รักเจ้าของ และเหนืออื่นใด คือ รักความอิสระของตัวเองเป็นชีวิตจิตใจ อิสระที่ จะกิน จะดื่ม หรือจะไปไหนตามที่ใจชอบ ซึ่งถือว่าเป็นบุคลิกประจำตัวที่ทำให้แตกต่างจากแมวพันธุ์อื่น สีสันตามตัวของแมวไทย เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักรักแมวรู้สึกสุขใจยามได้มอง ไม่ว่าจะเป็น วิเชียรมาศ เก้าแต้ม ขาวมณีหรือขาวปลอด นิลรัตน์หรือดำปลอด ศุภลักษณ์หรือ ทองแดง สีสวาดหรือแมวไทยพันธุ์โคราช ต่างล้วนได้รับความสนใจ จากเจ้าของและผู้สนใจทั้งสิ้น


แมวไทย

เป็นสัตว์เลี้ยงผู้ภักดี ที่ใครๆต่างก็กล่าวขวัญถึง ในอดีตแมวไทยเคยเป็นสัตว์เลี้ยงที่หาได้ยาก แต่ปัจจุบัน นักพันธุศาสตร์ ได้พยายามคิดค้น และหาวิธีการปรับปรุงและพัฒนาสายพันธุ์ ทั้งนี้เพื่อให้ได้มา ซึ่งแมวไทยพันธุ์ดี ด้วยเหตุที่สมัยก่อน แมวไทยเป็นสัตว์เลี้ยงที่หายาก จึงทำให้ผู้เลี้ยงหวงแหน เป็นพิเศษ ถึงขนาดมีคดีขึ้นโรงขึ้นศาลมาแล้ว ซึ่งในบันทึกพงศาวดารของไทยเรา เมื่อประมาณ กว่าร้อยปี ได้ระบุว่า Owen Gould ชาวอังกฤษ ต้องโทษถึงประหารชีวิตด้วยข้อหา ที่พยายาม นำแมวไทยคู่หนึ่ง ออกนอกราชอาณาจักรไทย (ก่อนหน้านี้ ก็มีชาวฝรั่งเศสผู้หนึ่ง ได้ก่อคดีแบบนี้ มาแล้ว)

แมวไทยทีจะกล่าวถึงจะไม่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานต่างประเทศ เพราะในต่างประเทศนั้นมาตรฐานต่างกันกับในบ้านเราในบางอย่าง แมวไทยตามตำราโบราณแบ่งไว้ เป็นลักษณะแมวดี เลี้ยงไว้แล้วจะให้คุณแก่เจ้าของมี 17 ชนิด และแมวที่ไม่ดี ไม่ควรเลี้ยงไว้อีก 6 ชนิด ลักษณะแมวไทยที่นิยม และมักดูสวยในการประกวดคือ ขนต้องเงาเป็นมัน เรียบและแนบลำตัวแสดงถึงสุขภาพที่ดี รูปร่างเพรียว สง่างาม ไม่อ้วน หรือผอมจนเกินไป หางตรง ยาว ไม่คดงอหรือบิดเบี้ยว สีจะต้องเป็นสีที่ตรงตามมาตรฐาน ถ้ามีด่างขาวไม่ว่าที่ใดๆก็ถือว่ายังใช้ไม่ได้ ปัจจุบันหลงเหลือแมวสายพันธุ์ไทยแท้ๆอยู่ไม่มาก

แมวไทย เป็นแมวพันธุ์แท้ที่สืบเชื้อสายมาจากแมวไทยโบราณขาสั้น สีสวย ศีรษะไม่กลมหรือแหลมเกินไป หน้าผากกว้าง จมูกสั้น หูตั้งสั้น ลำตัวเพรียวบาง รูปร่างขนาดปานกลาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว ขนแน่นอ่อนนุ่ม หางยาวปลายเรียว ซื่อสัตย์ อิสระ

ที่มา : http://atcloud.com/stories/43566

ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี


ซาไก : ปะเหลียน


พาเที่ยวบ้านสีดาวเรือง และหมู่บ้านซาไก ที่อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง

ได้เวลาพาเที่ยวกันอีกแล้ว หลังจากพากินไป ๒ บล็อก สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถือว่าเป็นที่ใหม่ที่หลายคนคงยังไม่รู้จัก แต่เชื่อแน่ว่า คนที่ชื่นชอบธรรมชาติต้องชอบแน่ๆ กับบ้านหลังนี้ "บ้านศรีดาวเรือง น้ำตกบัณฑิต" น้ำตกแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ห่างจากตัวเมืองตรังประมาณ ๕๐ กิโลเมตร อยู่ใกล้กับน้ำตกโตนตก



ทริปนี้ สาวไป กศน.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จังหวัดปัตตานี ซึ่งได้พานักศึกษามาดูงานเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่บ้านหลัง เมื่อไปถึงทางเข้าเราต้องเดินเท้าประมาณ ๘๐๐ เมตร จากปากทางเข้า


ระหว่างทางก่อนเข้าถึงบ้าน มีน้ำตกสายเล็กๆที่เจ้าของบ้านประดิษฐ์ตกแต่งเอง สวยร่มรื่นจริงๆ


ที่มา : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=skybeach&month=04-2011&date=06&group=2&gblog=178

ผลไม้ : สาระน่ารู้

ผลไม้ : สาระน่ารู้

มีวิตามินเอและซี ที่มีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และช่วยเสริมสร้างความสดใสให้แก่ผิวพรรณ และยังช่วยให้ระบบการหมุนเวียนเลือดดีขึ้น
  เสาวรส ผลเสาวรส มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต ลดไขมันในเส้นเลือด เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย คลายร้อน และป้องกันไข้หวัดได้เป็นอย่างดี
  ลิ้นจี่ มีวิตามินบี1 และบี2 และวิตามินซี มีสรรพคุณช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด ช่วยย่อยอาหาร ช่วยบำรุงม้าม บำรุงอวัยวะภายใน บำรุงระบบประสาท และยังแก้อาการท้องเดินได้อีกด้วย
  ฝรั่ง  มีวิตามินซี ที่มีสรรพคุณชะลอการลุกลามของมะเร็ง ช่วยสร้างและบำรุงเนื้อเยื่อเกี่ยวพันทำให้แผลหายเร็ว ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ช่วยลดสารพิษในร่างกาย หากรับประทานเป็นประจำจะทำให้ผิวพรรณสดใส
  บ๊วย มีสรรพคุณช่วยคลายร้อน เพิ่มกำลัง บรรเทาอาการเหนื่อยอ่อนเพลีย และช่วยเสริมระบบการย่อยอาหาร ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย หากดื่มน้ำบ้วยเป็นประจำ ยังจะช่วยป้องกันโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารได้อีกด้วย
  เห็ดหลินจือ มีสรรพคุณช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคมะเร็ง บำรุงตับ บำรุงสมองและระบบประสาท ทำให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องหลอดเลือดแข็งตัว เส้นเลือดอุดตัน น้ำตาลในเลือด คอเลสเตอรอลและความดันโลหิตสูง
  น้ำผึ้ง เป็นยาอายุวัฒนะและชะลอความแก่ เป็นอาหารเสริมบำรุงร่างกายให้แข็งแรง สดชื่นอยู่เสมอ ช่วยเสริมสร้างวิตามิน และแร่ธาตุที่ร่างกายขาดไป ช่วยให้ระบบการย่อยและขับถ่ายดีขึ้น
  ตะไคร้  มีสรรพคุณ ช่วยบำรุงสายตา มีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ลดพิษของสารแปลกปลอมในร่างกายและยังช่วยลดความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย
  ขิง  มีสรรพคุณช่วยให้เจริญอาหาร และทำให้ร่างกายอบอุ่น รักษาไข้หวัด รักษาอาการไอ ขับเสมหะ และยังช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้ออีกด้วย รักษาอาการปวดประจำเดือนในช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน
  ใบเตย มีสรรพคุณช่วยลดอาการกระหายน้ำ ทำให้ชุ่มคอ รู้สึกสดชื่น และยังเป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ 
  ถั่วเหลือง มีสรรพคุณในการช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ ช่วยลดและป้องกันโรคมะเร็งเต้านม ช่วยป้องกันและแก้ไขโรคหัวใจ ช่วยป้องกันโรคระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากเป็นอาหารที่ไม่มีโคเลสเตอรอล และมีใยอาหารสูง
  ลำไย เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณช่วยในการบำรุงหัวใจ ระบบประสาท และระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และใช้บำรุงร่างกายของสตรีภายหลังจากการคลอดบุตร  
  มะเม่า อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่มีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการแก่ชราของเซลล์ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และยังช่วยขับปัสสาวะ บำรุงไต แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย
  มังคุด สาร Xanthone ในเปลือกมังคุด ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีผลต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่าง ๆ นอกจากนี้ในเปลือกมังคุดยังมีสาร แทนนิน ที่มีคุณสมบัติช่วยในการสมานแผล และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้อีกด้วย
  มะม่วง ช่วยละลายเสมหะ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน และยังช่วยให้เลือดลมและประจำเดือนของสตรีเป็นปกติ หากรับประทานมะม่วงสดเป็นประจำแล้วก็จะช่วยทำให้อาการไอ หอบ มีเสมหะ หรือมีเลือดออกตามไรฟันบรรเทาลงไปได้
  มะละกอ มีสรรพคุณในการต่อต้านการเกิดของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวได้เป็นอย่างดี และยังช่วยบำรุงอวัยวะภายในต่าง ๆ ของมนุษย์ เช่น ม้าม และกระเพาะอาหาร ช่วยในการย่อยอาหาร และยังช่วยทำให้ผิวพรรณดี อีกด้วย
  สตรอเบอร์รี่ มีวิตามิน ซี อยู่เป็นจำนวนมาก มีสรรพคุณที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหวัดและโรคภูมิแพ้ ช่วยทำให้ระบบการดูดซึมอาหารของร่างกายดียิ่งขึ้น ลดอาการท้องผูก ช่วยให้เจริญอาหาร
  สับปะรด มีปริมาณของวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยไฟเบอร์ที่มีอยู่มากมาย มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร เสริมสร้างการดูดซึมอาหารของร่างกาย การลดความร้อนของร่างกายและยังช่วยแก้กระหาย หากรับประทานสับปะรดเป็นประจำแล้ว จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคไตอักเสบ และโรคความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย
  กระเจี๊ยบ มีสรรพคุณในการช่วยรักษาอาการร้อนในภายในช่องปาก ลดปริมาณของไขมันในเส้นเลือด ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยลดระดับของความดันโลหิตภายในร่างกายให้กลับเข้าสู่ระดับปกติ และยังช่วยลดอาการอ่อนเพลียได้อีกด้วย
  มัลเบอร์รี่ หรือ หม่อน มีสรรพคุณที่สามารถต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง ผู้ที่รับประทานเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งได้ และยังช่วยบำรุงไตให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข่วยบำรุงโลหิต บำรุงประสาทตา ทำให้สายตาแจ่มใส ร่างกายก็สุขสบาย
  ลูกพลับ มีโพแทสเซียมสูง และมีวิตามินซีสูง มีสรรพคุณช่วยให้หายอ่อนเพลีย บรรเทาอาการร้อนใน เจ็บคอ คอแห้ง เป็นแผลในปาก ละลายเสมหะ และบำรุงปอด นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการท้องเดินได้อีกด้วย
  กล้วยหอม มีวิตามินบีสูง มีสรรพคุณช่วยลดความเครียด ความอ่อนล้า ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์สดใส ในกล้วยหอมจะมีเส้นใยอาหารช่วยทำให้ระบบขับถ่ายในร่างกาย ทำงานได้ดี และยังช่วยให้การย่อยอาหารของลำไส้เล็กดีขึ้นได้
  แก้วมังกร มีสารอาหารหลายชนิด เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมกนีเซียม วิตามินซี และมีเส้นใย มีสรรพคุณช่วยลดโคเลสเตอรอล ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ ลดความดันโลหิต ควบคุมน้ำหนัก แก้ท้องผูก ป้องกันมะเร็งสำไส้ใหญ่และช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น
ส้ม มีวิตามินเอและซี มีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และช่วยเสริมสร้างความสดใสให้แก่ผิวพรรณ
ที่มา : http://www.doikham.co.th/benefit_detail_th.php?benefitid=2